จากกรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตและพบเป็นศพที่ภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 63 แต่ก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ต้องหา ต่อมาทางโลกโซเชียลมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการไลฟ์เฟซบุ๊กของ น้าแต หรือ นายนรินทร์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. น้าของน้องชมพู่ที่บอกว่าเจอรองเท้าของน้องชมพู่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 3-5 กิโลเมตร หลายคนจึงสงสัยเนื่องจากข้อมูลนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ และยังไม่มีใครทราบระยะทางที่แท้จริง
นอกจากนี้ในคลิปช่วงหนึ่งมีการพูดว่า “คนที่พาน้องไปได้ยินเสียง ฮ.ก็”
จากนั้นน้าแตได้เปลี่ยนไปพูดอย่างอื่น และระหว่างที่น้าแตไลฟ์สดมีคนโทรเข้ามาพูดเป็นภาษาอีสานว่า “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีนะแต่มันมีปัญหา เพราะฮอล์ขึ้นบินได้ยินเสียงฮอล์เขาเลยกลัว”
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ชาวเน็ตก็ได้เข้าไปโจมตีเฟซบุ๊กน้ากระแต หลังยังโพสต์รัวๆ เกี่ยวกับน้องชมพู่ ซึ่งดูมีพิรุธ รวมถึง จับผิดคลิปไลฟ์สดในวันที่เจอศพชมพู่ ที่อยู่ๆ ก็พูดถึงเฮลิคอปเตอร์ แถมพูดออกมาชัดๆ ว่า น้องถูกอุ้มขึ้นภูเหล็กไฟ สำหรับผลการชันสูตรศพ ทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวช ระบุว่า น้องชมพู่ น่าจะเสียชีวิตในวันที่ 13 พ.ค. คือ 1 วันก่อนพบศพ
หลังจากที่มีรายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ที่จ.มุกดาหาร โดยก่อนหน้าทางนิติเวชได้รายงานผลการชันสูตรศพ ยังคงยืนยันผลตามเดิมที่ตรวจครั้งแรกตั้งแต่ 15 พ.ค.2563 ว่าไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และ ล่วงละเมิดทางเพศ
วันที่ 14 ก.ค.63 มีรายงานว่า กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณรอบบ้านน้องชมพู่ ตามคำร้องขอของ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้บอกว่า ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย หลัง ข่าวออกว่า น้องสะดิ้งลูกสาวคนโต ไม่ได้นอนหลับขณะที่น้องชมพู่หายตัวไป ทำให้แม่กังวลว่า น้องสะดิ้งและคนในครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ได้เข้าติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 4 ตัว คือ ตัวแรกบริเวณหน้าบ้านฝั่งขวา ซึ่งจะเห็น ทางเข้า-ออก และถนนใหญ่ ตัวที่ 2 บริเวณหน้าบ้านฝั่งซ้ายหันไปทางภูเหล็กไฟ ตัวที่ 3 หันกล้องเข้ามาภายในบ้าน เห็นบริเวณภายในบ้านทั้งหมด และตัวสุดท้าย ติดตั้งบริเวณหลังบ้าน
มีรายงานจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตร สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่ชันสูตรร่างของน้องชมพู่ ครั้งที่ 2 ได้ข้อมูลว่า แม้ผลชันสูตรจะไม่ปรากฎสาเหตุการเสียชีวิต แต่พบว่า ก่อนเสียชีวิตร่างกายน้องชมพู่ขาดน้ำและอาหาร รวมถึงมีบาดแผลตามร่างกาย และ อวัยวะเพศ
แพทย์นิติเวช บอกว่า บาดแผลที่อวัยวะเพศ ไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการร่วมเพศ พบอสุจิ หรือ สารคัดหลั่งแฝงในร่างกาย แต่เกิดจากการกระแทกด้วยของแข็ง จนเกิดบาดแผล ส่วนที่มีการพบเส้นผมของน้องชมพู่ ถูกตัดด้วยของมีคม อยู่บริเวณจุดพบศพ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชี้ว่า ลักษณะของผมที่ถูกตัด ค่อนข้างชัดเจนว่าเด็กไม่สามารถตัดเองได้ หากไม่มีมีดหรือกรรไกรติดไปด้วย ประเด็นนี้ ยังเป็นปริศนาที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า น้องชมพู่อยู่ลำพังในจุดเกิดเหตุก่อนเสียชีวิต
เมียทำเอง! ลงมือฆ่าผัว ก่อนจัดฉากรถกระบะตกข้างทาง ล่าสุด ออกมาสารภาพกับพ่อแม่และเข้ามอบตัวแล้ว
จากกรณีพบศพของนายพิธยุทธ อายุ 42 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถกระบะที่ตกอยู่ข้างทาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนนี้มีการแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุแต่จากการตรวจสอบพบว่ารถกระบะไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ นางเยาว์พา อายุ 40 ปี น้องสาวของผู้ตายไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ประกอบกับผลชันสูตรออกมาว่าพี่ชายเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายและสภาพภายในรถมีรอยเลือดกระจาย แพท์ผู้ชันสูตรจึงสันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรม จากนั้นน้องสาวผู้ตายและญาติจึงไปยื่นหลักฐานให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย
ล่าสุด นางสุมาริน ภรรยาของนายพิธยุทธ อายุ 42 ผู้ตาย ได้เข้ามามอบตัวพร้อมสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าสามี เพราะสามีจะใช้มีดแทงตน แฟนใหม่จึงวิ่งเข้ามาช่วยแล้วผลักสามีล้ม และตนเป็นคนลงมือตีที่ใบหน้าและศีรษะสามีจนเสียชีวิต จากนั้นจึงวางแผนกับเพื่อน นำร่างผู้ตายไปจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ
ด้าน นางอุไร แม่ของนางสุมาริน ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ลูกสาวเข้ามาสารภาพกับพ่อแม่ แต่พ่อก็ไม่เชื่อว่าทำคนเดียว ต้องมีผู้ร่วมลงมือด้วย ก่อนพาลูกสาวมามอบตัวที่ สภ.ชะอำ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว จึงต้องสอบสวนเพื่อหาว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุกี่คนและใครเป็นคนนำศพไปจัดฉาก โดยจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุเพิ่มมาดำเนินคดีต่อไป
ร.ต.อ.ฉลองรัฐ หวายแก้ว หัวหน้าหน่วยเก็บกู้ระเบิด EOD สังกัดภูธร จ.อุดรธานี หรือ ‘ผู้กองหรั่ง’ อีกฉายาที่เพื่อน ๆ ตั้งให้คือ บรูซ วิลลิส เมืองไทย ได้เสียชีวิตลงในวัย 47 ปี จากการยิงตัวตายภายในห้องพักแฟลตตำรวจ ห้องเลขที่ 8/2 แฟลตตำรวจ 4 ชั้น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เมื่อตำรวจทราบเรื่อง ได้เดินทางไปจุดเกิดเหตุ พบห้องล็อกจากด้านใน เมื่อเข้าไปด้านในได้ พบ ผู้กองหรั่งนอนเสียชีวิตในสภาพขึ้นอืด ข้างกันมีอาวุธปืน กระสุนในรังเพลิง 7 นัดยิงแล้ว 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้อต้นคาดว่าผู้กองหรั่งยิงตัวเองเสียชีวิต โดยใช้หมอนรองขณะยิงตัวเอง จึงทำให้ตำรวจข้างห้องไม่ได้ยินเสียงปืน และสภาพขึ้นอืดน่าจะเสียชีวิตมาหลายวัน จากการสอบสทราบว่าเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ฉลองรัฐ ทะเลาะกับภรรยาจนเธอหอบเสื้อผ้าหนีไปพร้อมกับลูกๆ 2 คน วัย 11-12 ปี คาดว่าคงเครียดจากปัญหาครอบครัวและสุขภาพ
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร